ที่ตั้งสาขา
Menu
TH EN
094 678 2888

อย่าล้อเล่น กับ ฝาหม้อน้ำ

หมวดหมู่: ความรู้คู่รถ | 10 เมษายน 2561 | จำนวนเข้าชม (20,754)

 

เมื่อเกิดปัญหาน้ำในหม้อน้ำหาย ผู้ใช้รถส่วนใหญ่มักจะนึกถึง การรั่วซึมเป็นสิ่งแรก แต่เมื่อหาร่องรอยไม่เจอก็จะคิดต่อไปว่าปะเก็นฝาสูบแตก หรือ ฝาสูบโก่ง โดยมักจะมองข้าม “ฝาหม้อน้ำ”ไป หลายท่านคงเริ่มสงสัยว่าแล้ว “ฝาหม้อน้ำ” นั้นมันมีผลทำให้น้ำในระบบหล่อเย็นหายไปได้ด้วยหรือ ? ทั้งนี้ “รู้ก่อนเหยียบ”เคยนำเสนอบทความตอน “ฝาหม้อน้ำ”สิ่งเล็กๆ:สำคัญใหญ่หลวง!! แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายท่านที่ยังไม่รู้หลักการทำงานของ “ฝาหม้อน้ำ” จึงขอนำมาเสนอกันอีกครั้ง
 
“ฝาหม้อน้ำ” (Radiator Cap) มีหน้าที่ ควบคุมแรงดันภายในหม้อน้ำให้คงที่ด้วยวาล์วที่ประกอบด้วยสปริงแรงดันและแผ่นยางทนความร้อนสูง โดยสปริงจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชุด ประกอบตัวใหญ่ที่มองเห็นด้วยตาเปล่าอยู่ภายนอกมีหน้าที่ควบคุมแรงดัน และเมื่อแรงดันภายในหม้อน้ำสูงขึ้นจนชนะแรงสปริงที่ระบุไว้บนฝาหม้อน้ำอาทิ 0.9 หรือ 1.1 บาร์ น้ำก็จะถูกดันออกไปไปยังหม้อพักน้ำ (คงหายสงสัยว่าสาเหตุใดผู้ผลิตรถยนต์ถึงไม่กำหนดให้เติมน้ำในหม้อพักจนเต็มก็เพื่อรองรับน้ำที่ถูกดันจากหม้อน้ำ) และเมื่อน้ำในระบบเย็นลง แรงดันในหม้อน้ำลดลง สปริงตัวเล็กที่อยู่ในแกนกลางฝาหม้อน้ำจะทำหน้าที่เป็นวาล์วสุญญากาศ ดูดน้ำจากหม้อกลับไปยังหม้อน้ำดังเดิม

คราวนี้ลองคิดดูว่าถ้าฝาหม้อน้ำเกิดการชำรุดเสียหาย ไม่ว่าจะในกรณีที่มองเห็นด้วยตาเปล่า อาทิ ยางทนความร้อนหมดอายุ แข็ง ฉีกขาด หรือมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าคือสปริงแรงดันเสื่อมคุณภาพ ก็จะส่งผลให้การควบคุมแรงดันผิดปกติไปทำให้น้ำในระบบหล่อเย็นหายไป จนอาจเกิดปัญหาใหญ่ตามมาภายหลัง ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกัน เราจึงควรตรวจสอบสภาพ “ฝาหม้อน้ำ” อยู่เสมอ หากพบชำรุดเสียหายให้รีบเปลี่ยนใหม่ทันที
 

การเลือกซื้อฝาหม้อน้ำ
 
-เลือกซื้อฝาหม้อน้ำที่ได้คุณภาพมาตรฐาน โดยจะเบิกจากศูนย์บริการก็ได้(ราคาไม่แพงอย่างที่คิด)
 
-อย่าเสี่ยงกับการใช้ฝาหม้อน้ำเทียม เพราะอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย
 
- ควรเลือกซื้อฝาหม้อน้ำ ที่มีค่าแรงดันเท่ากับฝาหม้อน้ำเดิมที่โดยบนฝาหม้อน้ำจะมีตัวเลขระบุไว้ อาทิ 0.9 บาร์ 1.1 บาร์
 
 เทคนิคควรรู้
 
-ควรเติมน้ำยาหล่อเย็นที่ได้คุณภาพและเปลี่ยนถ่ายปีละครั้งเพื่อป้องกันการเกิดตระกรันอันจะนำมาสู่ความเสียหายของยางทนความร้อนและสปริงแรงดัน
 
-ตรวจสอบชุดสปริงวาล์ว สุญญากาศ ด้วยการเปิดฝาหม้อน้ำออกมาในขณะเครื่องเย็นแล้วลองใช้มือดึงแกนกลางด้านล่างซึ่งประกบติดกับแผ่นยางทนความร้อนถ้าแข็งหรือดึงไม่ออกแสดงว่าสปริงวาล์ว สุญญากาศ กลับบ้านเก่าแล้วต้องเปลี่ยน “ฝาหม้อน้ำ” ใหม่สถานเดียว
 
 -ควรเปลี่ยนฝาปิดหม้อน้ำทุกๆ 8 หมื่นกิโลเมตร เพราะยางทนความร้อนและสปริงแรงดันเริ่มเสื่อมสภาพ

ขอบคุณข้อมูลจาก : บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด

 

อัพเดทข่าวสารสำคัญผ่านทาง LINE ได้ทุกวัน
Add friend ที่ ID : @masterusedcar
 
เพิ่มเพื่อน

อื่นๆ

ข่าวรถยนต์
22 สิงหาคม 2567
ข่าวรถยนต์
18 กรกฎาคม 2567
ข่าวรถยนต์
21 มิถุนายน 2567
ข่าวกิจกรรม
20 ตุลาคม 2566
การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ของเรา และเรามีความประสงค์จะใช้คุกกี้ทางเลือกเพื่อช่วยให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ของเรา โดยเราจะไม่ใช้คุกกี้ทางเลือกจนกว่าท่านจะอนุญาตให้เราเปิดใช้งานคุกกี้ดังกล่าว

ท่านสามารถศึกษารายละเอียดของการใช้คุกกี้ได้จากนโยบายการใช้คุกกี้ของเรา นโยบายการใช้คุกกี้ ทั้งนี้ หากท่านกดยอมรับคุกกี้ทั้งหมด จะหมายความว่าท่านยินยอมให้เราบันทึกและใช้คุกกี้ทั้งหมดจากอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าเว็บไซต์ของเรา รวมถึงเพื่อทำให้การเลื่อนสำรวจหน้าเว็บและการวิเคราะห์การใช้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมทางการตลาดของเรา

ยอมรับคุกกี้ทั้งหมด