มีคำถามจากผู้ใช้รถรายหนึ่งสอบถามเข้ามาว่า นำรถเข้าศูนย์บริการตรวจเช็คตามระยะ โดยช่างแจ้งว่าผ้าเบรกหน้าบางจึงได้เปลี่ยนผ้าเบรก พร้อมแนะนำให้เปลี่ยนถ่าย “น้ำมันเบรก”ไปด้วย แต่สังเกตเห็นว่าน้ำมันเบรกยังใสอยู่ จึงอยากทราบว่าน้ำมันเบรกจำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายเมื่อใด
จากคำถามข้างต้น จะเห็นได้ว่า “เมื่อพูดถึง “ระบบเบรก” ผู้ใช้รถส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญไปที่ชิ้นส่วนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นผ้าเบรก-จานเบรก-คาลิปเปอร์ โดยมองข้ามสิ่งสำคัญคือ “น้ำมันเบรก” ไป ทั้งนี้ขอแนะนำให้เปลี่ยนถ่าย “น้ำมันเบรก” ปีละครั้ง ถึงตรงนี้หลาย ๆ ท่านคงเริ่มสงสัยว่ามันจำเป็นขนาดนั้นเชียวหรือ? “รู้ก่อนเหยียบ” จึงขอนำทุกท่านมารู้จักกับเจ้า “น้ำมันเบรก” ให้ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิม
“น้ำมันเบรก” มีหน้าที่เป็นตัวกลางถ่ายทอดกำลัง กล่าวคือเมื่อเราเหยียบเบรก แรงกดจะถูกส่งไปที่ชุดแม่ปั้มเบรกบนที่มีหม้อลมช่วยผ่อนแรง จากนั้นแม่ปั้มเบรกจะทำหน้าที่อัดแรงดันน้ำมันเบรก ผ่านไปยังวาล์วปรับแรงดันให้เหมาะสมกับเบรกหน้า-หลัง ก่อนกระจายแรงผ่านลูกสูบไปดันผ้าเบรกให้เสียดทานกับจานเบรกจนเกิดความฝืดส่งผลให้รถชะลอความเร็วลง จนหยุดในที่สุด
มาตรฐานความปลอดภัย
“น้ำมันเบรก” ที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดได้กำหนดชื่อมาตรฐานไว้คือ “DOT” (Department of Transportation) โดยกำหนดจุดเดือดของน้ำมันเบรก “DOT” 3 ต้องมีจุดเดือดไม่ต่ำกว่า 205 องศาเซลเซียส “DOT” 4 ต้องมีจุดเดือดไม่ต่ำกว่า 230 องศาเซลเซียส และ“DOT” 5 ต้องมีจุดเดือดไม่ต่ำกว่า 260องศาเซลเซียส
คุณสมบัติของ “น้ำมันเบรก”ที่ดี
-เป็นตัวกลางถ่ายทอดกำลังจากแป้นเบรก สู่ ระบบเบรกได้ดี
-มีความหนืดที่เหมาะสม ทุกช่วงอุณหภูมิ ทั้งร้อน-เย็น
-ไม่เป็นอันตรายต่อลูกยาง และชิ้นส่วนที่เป็นโลหะในระบบเบรก
-เป็นสารหล่อลื่นที่ดี เพื่อป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนที่เสียดสีกัน ภายในระบบเบรก
-มีจุดเดือดสูงและไม่ระเหยได้ง่าย
-รักษาคุณสมบัติต่างๆ ได้นาน
ปัจจัยที่ทำให้ “น้ำมันเบรก”เสื่อมสภาพ
-ความร้อน อันเนื่องมาจากการเบรกกะทันหัน หรือเบรกบ่อยๆ ภายใต้ความเร็วสูง จะส่งผลให้ “น้ำมันเบรก” ซึมซับความร้อนเอาไว้ หากระบายสู่ส่วนอื่นไม่ทันจนถึงจุดเดือดสูงสุด “น้ำมันเบรก” ก็จะระเหยกลายเป็นไอในกระบอกสูบเบรก ซึ่งในช่วงนี้จะทำให้ไม่มีแรงดันที่จะไปกระทำต่อลูกสูบเบรก ให้ไปดันผ้าเบรก ส่งผลให้เกิดอาการเบรกหาย-เบรกลึก-เบรกไม่อยู่ หรือที่เรียกว่า “เบรกแตก” ดังนั้นจุดเดือดของ “น้ำมันเบรก” จึงมีความสำคัญมาก ต่อประสิทธิภาพระบบเบรก
-ความชื้น “น้ำมันเบรก” มีคุณสมบัติอันไม่พึงประสงค์ คือเป็นสารที่ดูดซับความชื้นจากอากาศได้ดี แถมยังสามารถผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันได้ และเมื่อความชื้นเข้ามาปะปนอยู่ใน “น้ำมันเบรก” ส่งผลให้มีจุดเดือดลดต่ำลง ยิ่งประเทศไทยจัดเป็นเขตที่มีความชื้นสูง จึงเป็นที่มาของการแนะนำให้เปลี่ยนถ่าย “น้ำมันเบรก” ทุก 1 ปี เพื่อไล่ความชื้นที่ผสมอยู่ในน้ำมันเบรก และยังเป็นการป้องกันการกัดกร่อนจากสนิม ที่เกิดจากความชื้นสะสมในกระบอกสูบเบรก ซึ่งเป็นต้นตอทำให้ลูกยางเบรกเป็นรอยและรั่วในที่สุด
เทคนิคควรรู้
-อย่าเติมน้ำมันเบรกคนละเกรดผสมกัน หากต้องการเปลี่ยนยี่ห้อ-เกรด ให้เปลี่ยนถ่ายของเก่าออกจากระบบให้หมดก่อน
-โดยทั่วไปผู้ผลิตรถยนต์จะกำหนดให้ใช้น้ำมันเบรก ”DOT” 3 หรือ ”DOT” 4 และ90% จะเติม ”DOT” 3มาจากโรงงาน แต่เมื่อเปลี่ยนถ่ายสามารถใช้ ”DOT” 4หรือ”DOT” 5 ซึ่งมีจุดเดือดสูงกว่าได้
-เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ในระบบเบรก ควรเปลี่ยนถ่าย “น้ำมันเบรก” ทุก ๆ 1 ปี
ขอบคุณข้อมูลจาก
www.oilsquare.com