ในยุคที่เกียร์ออโตเมติกครองเมือง ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็พานพบแต่รถยนต์เกียร์ออโตเมติก ถึงขนาดบางรุ่นไม่ผลิตเกียร์ธรรมดาออกมาจำหน่ายกันเลยที่เดียว ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากความสะดวกสบายในการขับขี่ ซ้ำยังมีการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและแม่นยำ กว่าเกียร์ออโตเมติก ยุคเก่าจึงได้รับความนิยมกันทั่วทุกหัวระแหง แต่เมื่อได้ความสะดวกสบาย เราจึงควรดูแลเกียร์ออโตเมติกให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ และสิ่งสำคัญที่มักถูกมองข้ามจากผู้ขับขี่หลายๆ ท่าน คือการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์อย่างสม่ำเสมอจนนำไปสู่ความเสียหายบางครั้งอาจถึงขั้นกระเป๋าฉีกกันเลยทีเดียว
คุณสมบัติน้ำมันเกียร์ออโตเมติก
-มีความหนืดที่พอเหมาะ คงความข้นใสได้ในทุกช่วงอุณหภูมิ สามารถแทรกผ่านได้ทุกส่วนภายในห้องเกียร์ไม่ว่าจะเป็นช่องว่างระหว่างแผ่นคลัตซ์ และวาล์วต่าง ๆ
-ไม่เป็นฟอง ป้องกันความชื้นและการเกิดสนิมได้ดี
-ทนความร้อนได้สูงโดยไม่เสื่อมสภาพ และต้องไม่ติดไฟ
-ไม่กัดกร่อนชิ้นส่วนภายในห้องเกียร์ทั้ง โลหะ ยาง ละพลาสติก
หน้าที่ของน้ำมันเกียร์ออโตเมติก โดยหลัก ๆ แล้วจะทำหน้าที่ถ่ายทอดกำลังไฮโดรลิก ในการสั่งควบคุมระบบต่าง ๆ ในห้องเกียร์ ไม่ว่าจะเป็นคลัตซ์ ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ หล่อลื่นและระบายความร้อนชิ้นส่วนภายในต่าง ๆ ทั้งนี้เมื่อน้ำมันเกียร์ออโตเมติกเริ่มเสื่อมสภาพ ก็จะส่งผลให้เกิดการสึกหรอสูงจนเกิดการเสียหายในที่สุด
เทคนิคควรรู้
การตรวจวัดน้ำมันเกียร์
-ดึงเบรกมือ ติดเครื่องยนต์ 2-3 นาที
-เหยียบเบรก โยกคันเกียร์ไปตำแน่งต่าง ๆ ให้ครบทุกตำแหน่งก่อนหยุดที่ตำแหน่ง P
-ดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ ออกมาเช็ดด้วยผ้าสะอาด
-เสียบก้านวัดลงไปใหม่แล้วดึงขึ้นมาอ่านค่า
-สังเกตระดับน้ำมันเกียร์ที่ก้านวัด จะต้องไม่ต่ำกว่าขีดล่าง(cool) ในกรณีเครื่องเย็น และไม่สูงเกินขีดบน(hot) ในขณะเครื่องร้อน
-หากน้ำมันเกียร์ต่ำกว่าระดับที่กำหนด ต้องหาน้ำมันเกียร์เกรดที่ผู้ผลิตกำหนดมาเติม (ดูได้จากคู่มือรถ) โดยไม่จำเป็นต้องยี่ห้อเดียวกันก็ได้
-น้ำมันเกียร์บอกสภาพของเกียร์ ได้ โดยเกียร์ที่สมบูรณ์ น้ำมันเกียร์จะต้องมีสีแดงหรือเหลือง สะอาด ไม่เป็นฟอง-ไม่มีเศษโลหะ
-หากน้ำมันเกียร์มีสีขุ่น ๆ คล้ายโคลน แสดงว่ามีการรั่วซึมของระบบน้ำหล่อเย็นออยเกียร์เข้าไปในระบบเกียร์ ให้รีบหาต้นเหตุแล้วซ่อม ร่วมทั้งเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ใหม่ด้วย
-การตรวจวัดน้ำมันเกียร์จะต้องอยู่ในระดับที่กำหนด ไม่มากหรือน้อยเกินไป ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นได้
-แม้คู่มือรถยนต์ของท่านจะกำหนดให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ที่ทุก 40,000 กิโลเมตร แต่อย่าลืมว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน แถมการใช้รถในเมืองใหญ่ที่มีสภาพการจราจรติดขัด เพื่อให้ได้การปกป้องสูงสุดขอแนะนำให้ท่านเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร
ขอบคุณข้อมูลจาก : บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด
อัพเดทข่าวสารผ่านทาง LINE
ไม่พลาดทุกโปรโมชั่นสุดคุ้มให้คุณได้รับทราบ
Add Friend ที่ ID : @masterusedcar