เทคโนโลยีที่เกิดจากการพัฒนาร่วมกันของทั้งสองฝ่ายจะครอบคลุมถึงระบบประมวลผลคอมพิวเตอร์ในรถยนต์บนพื้นฐานของระบบปฏิบัติการคลาวด์ “อาซัวร์” (Azure) ของไมโครซอฟต์ และการพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของเรโนลต์-นิสสันที่ต้องการทำตลาดรถ 10 รุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยีดังกล่าวภายในปี 2020
ทั้งเรโนลต์-นิสสัน และไมโครซอฟต์มีเป้าหมายตรงกันว่า ยานยนต์ในอนาคตจะต้องมีการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบ โดยผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบรถยนต์ของตนเองได้จากที่ใดก็ได้ ถ้าตัวรถถูกขโมยก็สามารถหยุดการทำงานของตัวรถได้
นอกจากนี้ ระบบอินโฟเทนเมนท์ก็จะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเอื้อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานทั้งด้านความบันเทิงและด้านการทำงานภายในรถยนต์ได้เหมือนเป็นออฟฟิศเคลื่อนที่
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาว่าระบบขับขี่อัตโนมัติ และเทคโนโลยีภายในรถยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ที่เกิดจากการพัฒนาร่วมกันจะถูกทำตลาดเมื่อใด แต่คาดว่าจะใช้เวลานานหลายปี ซึ่งคุ้มค่าแก่การรอคอย
ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟต์ทำงานร่วมกับค่ายรถหลายราย อย่างฟอร์ดที่ร่วมกันพัฒนาอินโฟเทนเมนท์ และวอลโว่ที่นำเสนอเทคโนโลยี HoloLens เวอร์ชวล เรียลลิตี้สำหรับการขายและการออกแบบ
ขอบคุณข้อมูลจาก www.autospinn.com