ช่วงนี้ชาวกรุงและอีกหลายจังหวัด เผชิญปัญหาเรื่องฝุ่นในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากรถยนต์ รถประจำทาง รถบรรทุก ที่เครื่องยนต์ดีเซลเสื่อมสภาพปล่อยควันพิษออกมาบนถนน รวมไปถึงการสร้างคอนโดมิเนียมในเมือง ก็เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดฝุ่นพิษ PM2.5 ขึ้นมากมาย
ข้อมูล : Infographic สถิติสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ณ วันที่ 17 มกราคม 63 จาก Lazada Thailand
ฝุ่น PM 2.5 เล็กแค่ไหน?
สำหรับฝุ่น PM2.5 นั้น จัดว่าเป็นฝุ่นที่มีความอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งมีความหนาแน่นในชั้นบรรยากาศ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าคล้ายหมอก ปกติฝุ่น PM2.5 จะเยอะในช่วงเปลี่ยนฤดูหนาวไปฤดูร้อน และช่วงฤดูฝน (ที่ฝนขาดช่วง) ก่อนจะไปสู่ฤดูหนาว PM2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็ก ไม่เกิน 2.5 ไมครอน เปรียบได้กับขนาดประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ ซึ่งมีอนุภาคที่เล็กมากโดยขนจมูกของมนุษย์ไม่สามารถกรองได้ สามารถเข้าไปถึงถุงลมในปอด ก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด หลอดลมอักเสบ หากได้รับในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานจะสะสมในเนื้อเยื่อปอด ทําให้การทํางานของปอดเสื่อมประสิทธิภาพลง
ข้อมูลจาก : Autobot Robot Vacumm
ฝุ่น PM 2.5 สามารถเข้าไปในรถยนต์ได้หรือไม่?
จริงๆ แล้วฝุ่นชนิดนี้สามารถเล็ดลอดเข้ามาในรถยนต์ได้บางส่วน แม้ว่าระบบเครื่องปรับอากาศในรถยนต์จะมีแผ่นกรองอากาศ แต่ก็ไม่สามารถกรองอนุภาคฝุ่นขนาด PM 2.5 ได้
แต่ถ้านั่งอยู่ในรถ ตามจริงแล้วก็ดูปลอดภัยจากฝุ่นอยู่พอสมควร (ถ้าหากไม่เปิดประตูรถ หรือเปิดกระจกรถในย่านที่รถติดๆ ฝุ่นเยอะๆ) ซึ่งไม่น่ากังวลเท่ากับการอยู่นอกรถ สูดดมอากาศไม่บริสุทธิเข้าไปเต็มๆ
วิธีการป้องกันทั่วไปคือ ใส่หน้ากาก N95 เพื่อลดฝุ่นที่เข้าถึงปอดได้ แต่หากจะให้ใส่หน้ากากแล้วขับรถ อาจจะดูอึดอัด ดังนั้นเราจะมาแนะนำวิธีป้องกันฝุ่น PM2.5 ในรถยนต์แบบง่ายๆ 3 วิธี
1) กรองแอร์
หากต้องขับรถยนต์ไปในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐาน หากเริ่มได้กลิ่นจากภายนอกเข้ามาในรถ เช่นกลิ่นเหม็นควันรถขณะจอดติดสัญญาณไฟ รถยนต์ควรมีแผ่นกรองแอร์ชนิด HEPA Airfilter ที่สามารถกรองอนุภาคฝุ่นได้ถึง 0.3 ไมครอน ซึ่งปัจจุบันมีขายตามท้องตลาดทั่วไป พร้อมกับหมั่นทำความสะอาดระบบแอร์ หรือเปลี่ยนกรองแอร์อย่างน้อยปีละครั้ง หรือทุกๆ 15,000 กิโลเมตร
2) เปิดระบบหมุนเวียนอากาศภายในรถ
เลือกระบบปรับอากาศในรถ ระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยรถยนต์ หรือ Air Recirculation เมื่อขับรถในบริเวณที่มีจราจรหนาแน่น เพื่อควบคุมไม่ให้อากาศภายนอกเข้ามาในรถได้ หากอยู่นอกพื้นที่ฝุ่น PM 2.5 แล้วก็สามารถปรับมาใช้ระบบหมุนเวียนอากาศจากภายนอก (Fresh) ตามปกติ
3) เครื่องฟอกอากาศ
แต่ถ้าหากใครยังกังวลอยู่ ก็สามารถติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์เพิ่มเลยก็ได้ เพื่อความสบายใจ ซึ่งในท้องตลาดตอนนี้ก็มีให้เลือกอยู่หลากหลายยี่ห้อ เพื่อกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก กรองแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อโรคในอากาศ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือควันบุหรี่ได้
3 วิธีนี้ เป็นวิธีช่วยลดปัญหาของฝุ่น PM2.5 ไปได้เยอะ แต่ก็อย่าลืมหมั่นตรวจเช็คสภาพรถยนต์ สภาพเครื่องยนต์ของเรา ให้ดีอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพราะไม่อย่างนั้นรถของเราเอง ก็อาจจะเป็นตัวปล่อยฝุ่น PM2.5 ได้เหมือนกัน
LINE ID : @masterusedcar