ใครจะเชื่อว่าแบรนด์ผลิตเครื่องใช้ภายในบ้านอย่าง Dyson มีโปรเจครถยนต์ไฟฟ้าที่อยู่ในสายการผลิต แต่ด้วยเหตุผลบางประการจึงทำให้แผนการจัดจำหน่ายรถรุ่นนี้ถูกพักไว้ก่อน วันนี้เราจะพาเจาะลึก N526 รถยนต์ไฟฟ้าที่ไฮเทคไม่แพ้ผลิตภัณท์อื่นๆ ของแบรนด์เลยทีเดียว
“รถยนต์ไฟฟ้า” เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับการจับตาจากทั่วโลก ที่ผ่านมามีหลายแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ และบางแบรนด์ก็หายไปจากความทรงจำ ซึ่ง Dyson เองก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา Dyson ได้ประกาศปิดตัวโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท พร้อม ๆ กับเปิดตัวเลขว่าเซอร์เจมส์ ไดสัน (Sir James Dyson) เจ้าของแบรนด์ต้องใช้เงินลงทุนส่วนตัวมากถึง 500 ล้านปอนด์ในการพัฒนาโปรเจคนี้
เซอร์เจมส์ ไดสัน และรถยนต์รุ่นโปรโตไทป์
การตกแต่งภายในตัวรถ มีที่นั่งดีไซน์สวยแปลกตา ที่วางศีรษะรูปทรงกลมคล้ายอมยิ้ม ขณะที่ส่วน Dashboard ออกแบบมาให้แสดงผลด้วยโฮโลแกรม เหมือนลอยอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว
บทเรียนจากรถยนต์ไฟฟ้า
Dyson อธิบายสภาพการแข่งขันของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าว่า ค่ายรถยนต์ชั้นนำอย่าง BMW, Mercedes และ Audi ต่างผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมา และยอมขายขาดทุนเพียงเพื่อให้บริษัทของตนเองปฏิบัติตามข้อบังคับของสหภาพยุโรป ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งข้อได้เปรียบของบริษัทรถยนต์ คือพวกเขามีธุรกิจรถยนต์แบบดั้งเดิมที่ยังขายได้ และนำเอากำไรส่วนต่างตรงนั้นมาชดเชย
ในขณะที่ Dyson ไม่มีธุรกิจรถยนต์ของตัวเอง จึงมีข้อจำกัดในการตั้งราคาขายในการทำกำไร (ซึ่งด้วยเงินลงทุนของ Dyson อาจทำให้ต้องขายรถดังกล่าวในราคาหลักแสนปอนด์) หรือไม่ก็ยอมขายขาดทุน แต่จะทำให้บริษัทตกอยู่ในความเสี่ยงไปด้วย สุดท้าย Dyson จึงตัดสินใจยุติโครงการดังกล่าว เนื่องจากมองว่าเป็นความเสี่ยงของบริษัทที่จะแข่งขันต่อไป
การตัดสินใจของ Dyson อาจถูกต้อง เพราะศาสตราจารย์ David Bailey จาก Birmingham Business School เผยตัวเลขของ Tesla ว่า แม้จะได้รับการยกย่องว่าประสบความสำเร็จจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แต่ในความเป็นจริงก็คือ Tesla เผาเงินนักลงทุนไปกว่า 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว ส่วน Dyson เองต้องใช้เงินส่วนตัวลงทุนกับการพัฒนารถยนต์ดังกล่าวถึง 500 ล้านปอนด์เช่นกัน
แต่ใช่ว่าไม่มีโปรเจครถยนต์ไฟฟ้าแล้ว จะมีผลกระทบต่อธุรกิจของ Dyson หากดูการจัดอันดับจาก Times พบว่า Dyson ถูกจัดอันดับเป็นตระกูลที่รวยที่สุดอันดับ 1 ของสหราชอาณาจักรในปี 2020 (ขึ้นจากอันดับ 5 ในปี 2019) โดยมีทรัพย์สินรวมทั้งหมด 16,200 ล้านปอนด์ (ประมาณ 628,305 ล้านบาท) ซึ่งรายได้หลักๆ มาจากธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีที่เขาครอบครองนั่นเอง
Dyson ได้ฝากถึงคนรุ่นใหม่ในอังกฤษว่า โลกาภิวัฒน์ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ตอนนี้พวกเขาอาจต้องอาศัยเวลาในการทำความเข้าใจว่า เราสร้างธุรกิจขึ้นมาได้อย่างไร ทำไมการส่งออกจึงสำคัญ สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักก็คือ การพัฒนาเทคโนโลยีนั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่แพงมาก และนั่นคือเหตุผลว่า ทำไมคุณต้องสามารถขายมันได้ทั่วโลกนั่นเอง
source