วิธีดูแลรักษาแอร์รถยนต์
เมื่อเปิดแอร์ หรือเครื่องยังเย็นอยู่ไม่ควรเปิดแอร์จนสุด เพราะควรให้คอมแอร์ได้วอร์มสักพักก่อนซัก 5 นาที กล่าวคือ ควรสตาร์ทเครื่องยนต์และให้เครื่องยนต์ถึงอุณหภูมิทำงาน (พัดลมระบายความร้อนหม้อน้ำทำงาน) ก่อนจึงเปิดสวิตซ์ระบบปรับอากาศ
การตั้งอุณหภูมิ
ไม่ตั้งอุณหภูมิให้เย็นเกินไปเพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานอยู่ตลอดเวลา
สวิตซ์พัดลม
เปิดสวิตซ์พัดลมก่อนแล้วจึงกด สวิตซ์ระบบปรับอากาศ (A/C) เปิดไปที่ความเร็วพัดลมสูงสุดระยะหนึ่งก่อน แล้วจึงลดลงไปยังความเร็วน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น
คอล์ยเย็น
หลีกเลี่ยงการใช้ น้ำหอม หรือสเปรย์ปรับอากาศ เพราะไอระเหยของสารเคมีที่ใช้จะถูกดูดเข้าไปสะสมตัวที่ครีบเล็กๆ ของคอล์ยเย็น สารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการดูดความชื้น ทำให้ฝุ่นผงไปจับตัวที่ครีบระบายความเย็น ความสามารถในการถ่ายเทความร้อนจะลดลง คอมเพรสเซอร์ก็จะทำงานมากขึ้น ให้ศูนย์บริการทำความสะอาดคอล์ยเย็นเป็นครั้งคราวเมื่อรู้สึกว่า ประสิทธิ์ภาพในการทำความเย็นของระบบปรับอากาศลดลง
หลังการใช้รถในทุกวัน
ก่อนถึงจุดหมายปลายทางประมาณ 15 นาที ปิดสวิตซ์ระบบปรับอากาศ (A/C) เปิดพัดลมไปที่ความเร็วสูงสุด ทั้งนี้เพื่อลดการทำงานคอมเพรสเซอร์และไล่ความชื้นออกจากคอล์ยเย็น
ดูแลรักษาด้วยวิธีปฏิบัติง่ายๆ ดังกล่าวเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของระบบปรับอากาศในรถยนต์ ให้ยาวนานขึ้น
ข้อแนะนำในการดูแลรักษาแอร์รถยนต์เพิ่มเติม
1.ไม่ควรนำน้ำหอมชนิดที่เป็นแบบมีแอลกอฮอลเป็นส่วนประกอบ ไปเสียบไว้หน้าช่องแอร์ เพราะจะทำให้ตู้แอร์ผุกร่อนเร็วขึ้น
2.เมื่อนำรถจอดตากแดดเป็นเวลานานๆ ก่อนใช้รถควรเปิดลมเปล่าให้แรงสุด(ปิดสวิตซ์ A/C) เพื่อไล่ความร้อนที่มีอยู่ในระบบแอร์ออกเสียก่อน แล้วจึงค่อยเปิดน้ำยาแอร์ (เปิดสวิตซ์ A/C)
3. ก่อนจอดรถทิ้งไว้นานๆ เช่น จอดข้ามคืน ควรเปิดลมเปล่าให้แรงสุด(ปิดสวิตซ์ A/C) ประมาณ 5 นาที เพื่อไล่ความชื้น ไล่น้ำ ที่ค้างอยู่ในตู้แอร์ออกก่อน เพราะตู้แอร์ทำจากอลูมิเนียม จะเกิดการผุกร่อนได้ง่าย และจะทำให้ตู้แอร์ลดการเหม็นอับอีกด้วย
4. จงจำไว้เสมอว่า ระบบแอร์ เป็น “ระบบปิด” ดังนั้นเมื่อรถคุณเติมน้ำยาแอร์บ่อยๆ แสดงว่าเกิดการรั่วของระบบแอร์ในรถของคุณแล้ว
5. ไม่ควรเปิดกระจกขับรถบ่อย เพราะจะทำให้ฝุ่นละอองจากภายนอก เข้ามาอุดตันในตู้แอร์ได้เร็วยิ่งขึ้น
6. เมื่อแอร์ไม่เย็น(กรณีเปิดน้ำยาแอร์แล้ว,เปิดสวิตซ์ A/C แล้ว) แต่ยังไม่เย็น ให้รีบปิด น้ำยาแอร์หรือ สวิตซ์ A/C ทันที เพราะอย่างน้อยๆ ถ้าเกิดการรั่วในระบบ น้ำยาแอร์และน้ำมันคอมเพรสเซอร์จะมีน้อยมากในระบบ จะทำให้คอมเพรสเซอร์พังมากขึ้นกว่าเดิม แล้วควรนำรถไปเช็คให้เร็วที่สุด แต่กรณีนี้ใช้ลมเปล่าก่อนก็ได้
7. ควรล้างตู้แอร์ ทุกๆ 2 ปี หรือถ้าใครเปิดกระจกขับรถบ่อย ให้ล้างทุกๆ ปี หรือตามเห็นสมควร
8. เมื่อมีเหตุจำเป็นที่ต้องเปิดกระจกขับรถ ควรปิดช่องแอร์บริเวณคอลโซลหรือจุดที่แอร์ออกให้หมดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ฝุ่นเข้าไปในระบบแอร์น้อยที่สุด
การดูแลรักษาระบบแอร์รถยนต์อย่างถูกวิธีช่วยยืดอายุการใช้นานและช่วยประหยัด เงินค่าซ่อมบำรุงได้อีกด้วย