ที่ตั้งสาขา
Menu
TH EN
094 678 2888

ลางบอกเหตุ?? ก่อน

หมวดหมู่: ความรู้คู่รถ | 11 มิถุนายน 2561 | จำนวนเข้าชม (2,593)

 

มีคำถามจากผู้ใช้รถรายหนึ่งสรุปได้ว่า ใช้รถกระบะเกียร์ธรรมดา มาเกือบ ปี วิ่งไป 1.1 แสนกิโลเมตร แต่ระยะหลัง ๆ มีความรู้สึกว่าขับขึ้นที่สูงกำลังจะตก เมื่อเร่งเครื่องรอบขึ้นแต่รถกลับวิ่งไม่ค่อยไป ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจากสาเหตุใดและต้องแก้ไขอย่างไร ทั้งนี้เมื่อวิเคราะห์จากข้อมูล ปัญหาดังกล่าวเกิดจาก "คลัตช์หมด ซึ่งหลาย ๆ ท่านคงประสบพบเจอกันมาบ้างแต่ขณะเดียวกันเชื่อว่ายังมีอีกหลายท่านที่ยังไม่เคยอาการดังกล่าว วันนี้ "รู้ก่อนเหยียบ"จึงขอนำทุกท่านมารู้จักกับ ลางบอกเหตุก่อน"คลัตช์"กลับบ้านเก่า

คลัตช์” (Clutch) คือระบบส่งกำลัง มีทำหน้าที่ตัด-ต่อการส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่ชุดเกียร์ ในรถเกียร์ธรรมดาจังหวะการเหยียบคลัตช์ คือการตัดการส่งกำลัง ทำให้ สามารถเปลี่ยนเกียร์หรือเข้าเกียร์ได้อย่างนิ่มนวล และจะต่อการส่งกำลังอีกครั้งเมื่อปล่อยคลัตช์ ขณะที่เกียร์ออโต้ คลัตช์ จะทำงานอัตโนมัติ ตามจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ ที่อาศัย ความเร็วรอบเครื่องยนต์-ความเร็วของตัวรถ-แรงกดคัน เร่ง ส่งสัญญาณผ่านเซ็นเซอร์ ให้กล่องควบคุมสั่งการ โดยปกติอายุไขของผ้าคลัตช์ในเกียร์ธรรมดาจะอยู่ที่ 8 หมื่น-1.5 แสนกิโลเมตร ส่วนเกียร์ออโตเมติก 1.5-2 แสนกิโลเมตร แต่อย่างไรก็ตามอาจใช้งานได้มากหรือน้อยกว่าขึ้นอยู่กับลักษณะการการขับขี่

การใช้งานคลัตช์ที่ถูกวิธี
-ควรออกตัวรถด้วยเกียร์ 1 เสมอเพื่อลดภาระของชุดคลัตช์

-เมื่อเปลี่ยนเกียร์ควรเหยียบคลัตช์ให้สุด แล้วปล่อยช้า ๆ เมื่อขับขี่รถบนทางลาดชัน อย่าเหยียบคลัตช์แช่หรือเลี้ยงคลัตช์ เพราะจะทำให้ผ้าคลัตช์สึกหรอมากกว่าปกติ

-หลีกเลี่ยงการพักเท้าที่แป้นคลัตช์ เพราะแค่น้ำหนักเท้าก็ส่งผลให้เกิดแรงกดทำให้ผ้าคลัตช์สึกหรอเร็วขึ้น

-เมื่อต้องเบรกกะทันหัน ไม่ควรเหยียบคลัตช์ก่อนเหยียบเบรก เพราะเมื่อเหยียบคลัตช์ก็เปรียบเสมือนอยู่ในเกียร์ว่างรถจะไม่เกาะถนน เสี่ยงต่อการเสียหลัก-ลื่น-หมุนได้ง่าย และยังเป็นการเพิ่มภาระให้เบรกด้วย

-ควรหลีกเลี่ยงการเข็นกระตุกเพื่อติดเครื่อง ในกรณีแบตเตอรี่หมดเพราะจะทำให้สปริงจานคลัตช์และผ้าคลัตช์เสียหายได้

-ไม่ควรเปลี่ยนยางที่มีเส้นรอบวงใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจนมากเกินไป เนื่องจากการอัตราทดของเกียร์และเฟืองท้ายไม่รองรับส่งผลให้ชุดครัชต้องรับภาระที่หนักและสึกหรอเร็วขึ้น

ลางบอกเหตุก่อน"คลัตช์"กลับบ้านเก่า

-คลัตช์ลื่น เกิดได้จาก สาเหตุหลัก ๆ คือ 1.คลัตช์หมด-ใกล้หมด สาเหตุใหญ่มาจากผ้าคลัตช์ที่เริ่มบางลงจนอาจถึงหมุดที่ย้ำตัวผ้าไว้กับจาน ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานรอบสูงขึ้นแต่ความเร็วต่ำกว่าปกติ หรือรถไม่มีกำลังเมื่อขึ้นทางชัน 2.เกิดจาการขับขี่ที่รุนแรง -การตั้งระยะคลัตช์ไม่เหมาะสมจนเกิดการยัน และลื่นจนไหม้ในที่สุด ทั้งนี้ล้อช่วยแรง-หวีคลัตช์-ผ้าคลัตช์ ที่เกิดรอยไหม้แล้วนั้นจะส่งผลให้คลัตช์ลื่นอยู่ตลอด วิธีแก้ไขคือต้องเปลี่ยนผ้าคลัตช์ใหม่ ขณะที่หวีคลัตช์จะเปลี่ยนหรือเจียรปรับหน้าใหม่ก็ได้ ส่วนล้อช่วยแรงให้เจียรใหม่

-คลัตช์สั่น ส่วนใหญ่เกิดจากหน้าสัมผัสระหว่าง หวีคลัตช์-ผ้าคลัตช์ล้อช่วยแรง ไม่เรียบส่งผลให้ขณะออกตัวรถเกิดอาการสั่นหรือกระตุก วิธีแก้ไขคือ เปลี่ยนผ้าคลัตช์ใหม่ หวีคลัตช์จะเปลี่ยนหรือเจียรใหม่ก็ได้ ส่วนล้อช่วยแรงให้เจียรใหม่

-คลัตช์พัง เกิดได้จากหลายสาเหตุอาทิ สปริงจานคลัตช์หลุด-หัก หมุดที่ย้ำผ้าคลัตช์แตกออก ลูกปืนคลัตช์แตก ทำให้รถเข้าเกียรไม่ได้ วิธีแก้ไขคือยกคลัตช์ชุดใหม่


เทคนิคควรรู้

-การตรวจสอบคลัตช์ลื่นรถเกียร์ธรรมดา ให้สตาร์ทเครื่อง ปลดเบรกมือ เข้าเกียร์ 4 ค่อยๆปล่อยคลัตช์ โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง ถ้าเครื่องดับแสดงว่าคลัตช์ยังปกติดี แต่ถ้าไม่ดับแสดงว่าคลัตช์ลื่น

ขอบคุณข้อมูลจาก บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด

อัพเดทข่าวสารผ่านทาง LINE
ไม่พลาดทุกโปรโมชั่นสุดคุ้มให้คุณได้รับทราบ
Add Friend ที่ ID : @masterusedcar

อื่นๆ

ข่าวรถยนต์
22 สิงหาคม 2567
ข่าวรถยนต์
18 กรกฎาคม 2567
ข่าวรถยนต์
21 มิถุนายน 2567
ข่าวกิจกรรม
20 ตุลาคม 2566
การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ของเรา และเรามีความประสงค์จะใช้คุกกี้ทางเลือกเพื่อช่วยให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ของเรา โดยเราจะไม่ใช้คุกกี้ทางเลือกจนกว่าท่านจะอนุญาตให้เราเปิดใช้งานคุกกี้ดังกล่าว

ท่านสามารถศึกษารายละเอียดของการใช้คุกกี้ได้จากนโยบายการใช้คุกกี้ของเรา นโยบายการใช้คุกกี้ ทั้งนี้ หากท่านกดยอมรับคุกกี้ทั้งหมด จะหมายความว่าท่านยินยอมให้เราบันทึกและใช้คุกกี้ทั้งหมดจากอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าเว็บไซต์ของเรา รวมถึงเพื่อทำให้การเลื่อนสำรวจหน้าเว็บและการวิเคราะห์การใช้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมทางการตลาดของเรา

ยอมรับคุกกี้ทั้งหมด