ศูนย์วิจัยของดิสนีย์แห่งซูริคในที่สวิตเซอร์แลนด์โชว์ผลงานวิจัยพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่ "FaceDirector" เป็นเครื่องมือปรับแต่งอารมณ์และความรู้สึกบนใบหน้าของนักแสดง หลังจากถ่ายทำเสร็จไปแล้ว เข้าสู่ขั้นตอนการตัดต่อภาพและเสียง เปิดทางให้ผู้กำกับภาพยนตร์ควบคุมงานปรับแต่งสีหน้าและแววตาได้เข้าถึงอารมณ์ตามที่ต้องการโดยไม่ต้องถ่ายฉากนั้นซ้ำ นับเป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของโลกมายาที่ขับเคลื่อนไปไม่มีสิ้นสุดภายใต้จินตนาการของมนุษย์ ซึ่ง Master Certified Usedcar (ศูนย์รวม รถมือสอง คุณภาพดี) เห็นว่าเรื่องนี้น่าสนใจมาก จึงนำสาระน่ารู้มาฝากคุณผู้อ่านกัน
สตูดิโอชั้นนำได้พัฒนาเทคโนโลยีซอฟต์แวร์สำหรับใช้ในงานภาพยนตร์มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์มีบทบาทในการทำงานมากขึ้น ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น และผลิตผลงานเปี่ยมคุณภาพ ล่าสุดนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของดีสนีย์ทำงานวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ในอังกฤษ โปรแกรมนี้ไม่ได้แต่งฟิล์มเพิ่มแต่อย่างใด เพียงแค่เปลี่ยนภาพอารมณ์บนใบหน้าโดยเลือกจากฟุตเทจต่างอารมณ์ทั้งหมดที่ถ่ายไว้แล้วเอามารวมเป็นฟุตเทจเดียวกัน โดยผู้กำกับอาจจะสั่งให้นักแสดงถ่ายทำฉากเดียวสองรอบ คือให้เล่นอารมณ์กลัว และเล่นอารมณ์โกรธ จากนั้นจึงปรับแต่งคลิปวิดีโอเป็นภาพนักแสดงมีอาการหวาดกลัวแล้วเปลี่ยนเป็นโกรธอย่างสอดคล้องและต่อเนื่อง โดยซิงค์เสียงซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้เข้าไปในการตัดต่อภาพยนตร์ด้วย
ขั้นตอนการทำงานของซอฟต์แวร์เริ่มจากการซิงค์ภาพหลายภาพในเวลาเดียวกัน โดยค้นหาไฟล์เสียงพูดแบบละเอียดยิบ เช่น เสียงคำที่ไม่ซ้ำกัน และค้นหาจุดกำหนดคุณลักษณะสำคัญบนใบหน้า จากนั้นปรับความเร็วในการเล่นไฟล์มีเดียเพื่อเชื่อมให้สองฟุตเทจกลายเป็นไฟล์เดียวกัน พร้อมกับตัดแต่งแก้ไขไฟล์เสียงไปโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งานโปรแกรมนี้จึงผนวกภาพใบหน้าต่างอารมณ์ที่ถ่ายทำแต่ละเทคมารวมอยู่ในฉากเดียวแบบไร้รอยต่อ ปรับเปลี่ยนภาพสลับอารมณ์อย่างลื่นไหลต่อเนื่อง หรือแม้แต่ลบบางคำพูดที่ไม่ต้องการออกไป ทำให้ไม่ต้องถ่ายซ้ำหลายรอบจนกว่าผู้กำกับจะพอใจ
หากเปรียบเทียบกัน จะเห็นได้ว่าคลิปวิดีโอที่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ปรับแต่งภาพนั้นดูไม่แนบเนียนเท่ากับการแสดงจริง ๆ แต่นับว่าเล่นกับอารมณ์บนใบหน้าได้ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ การลำดับภาพใหม่ในฉากเดียวกันแบบเรียลไทม์สร้างภาพสลับอารมณ์ได้เหลือเชื่ออย่างที่นักแสดงธรรมดาเล่นปรับอารมณ์ไม่ทันอย่างแน่นอน ซอฟต์แวร์ใหม่ "FaceDirector" จึงเป็นศาสตร์ใหม่ที่ช่วยประหยัดเวลาได้มาก เหมาะกับการถ่ายทำเป็นซีนแล้วค่อยมาตัดต่อภายหลัง ทำให้ตัดแต่งภาพได้เข้าที่เข้าทางตรงกับใจผู้กำกับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลานักแสดงและทีมงานซึ่งกว่าจะได้ภาพสมใจผู้กำกับแต่ละฉากอาจใช้เวลาไปครึ่งค่อนวัน
ก่อนหน้านี้มีโปรแกรมตัดต่อเสียง เช่น Pro Tools เป็นซอฟต์แวร์ปรับแต่งและเรียบเรียงเสียงที่บันทึกไว้แล้ว นิยมใช้แพร่หลายในวงการมืออาชีพระดับโลก เสียงมีความเที่ยงตรงและคมชัดทำให้ภาพยนตร์มีอรรถรสในการชมมากขึ้น ความใส่ใจในรายละเอียดของภาพให้มีความสมจริงสร้างชื่อเสียงให้กับภาพยนตร์ของดีสนีย์มาอย่างยาวนาน สมกับเป็นสตูดิโอชั้นนำแห่งวงการที่พยายามทดลองสิ่งใหม่อยู่เสมอเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้ชมทั่วโลก คงต้องติดตามกันต่อไปว่าภาพยนตร์เรื่องใดที่จะใช้ซอฟต์แวร์ใหม่ช่วยขับเน้นให้เนื้อเรื่องเข้มข้น ซึ่ง Master Certified Usedcar จะได้นำมาฝากคุณผู้อ่านอีกเช่นเคย