ทุกวันนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มักจะพบแต่รถยนต์ออโตเมติก (ออโต้) ที่ค่ายรถยนต์ทุกแบรนด์ต่างเข็ญออกมาแทนที่เกียร์ธรรมดา ซึ่งสามารถครองสัดส่วนในตลาดได้มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการใช้งานสะดวกสบายไม่ว่าจะในเมืองที่มีรถหนาแน่นหรือการเดินทางไกลในต่างจังหวัดก็ตอบสนองได้ดีเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตามเกียร์ออโตเมติก มักมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าเกียร์ธรรมดาเสมอ ยิ่งหากขาดการดูแลรักษาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะที่กำหนดก็จะเร่งให้เกิดความเสียหายได้เร็วขึ้น “รู้ก่อนเหยียบ” จึงขอนำทุกท่านมารู้จักกับ ลางบอกเหตุอาการเกียร์ออโตเมติกก่อนกลับบ้านเก่า
ลางบอกเหตุอาการเกียร์ออโตเมติกเสีย
-มักเริ่มต้นด้วย เครื่องเย็นเข้าเกียร์ แล้วเกิดอาการกระตุกแรงไม่นิ่มนวล โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดกับเกียร์ถอยหลังก่อนเกียร์เดินหน้าแต่เมื่อเครื่องร้อนอาการดังกล่าวจะดีขึ้น
-ต่อมาจะเกิดอาการ กระตุก-สั่น-อืด ขณะเปลี่ยนเกียร์ระหว่างที่รถวิ่งอยู่
-ตามมาด้วย อาการคลัตช์ลื่น ระหว่างเปลี่ยนเกียร์
-จากนั้นเข้าเกียร์ แล้วรถไม่เคลื่อนตัว ทั้งเดินหน้าและถอยหลัง ต้องเร่งเครื่องช่วยถึงเกียร์ถึงจะเข้า โดยมักจะมีอาการเกียร์ไม่เปลี่ยน และไฟ D กระพริบ ร่วมด้วย
-สุดท้าย คืออาการเกียร์วืด หมายถึงระหว่างวิ่งใช้งานปกติ เกียร์จะวืดเหมือนไม่ได้เข้าเกียร์ ในรถบางรุ่นเมื่อจอดทิ้งไว้ให้เย็นยังสามารถวิ่งได้ แต่ก็จะเกิดอาสการดังกล่าวซ้ำอีกเช่นกัน
แนวทางการซ่อม
-เปลี่ยนเกียร์ใหม่ศูนย์ ซึ่งมีราคาสูงมาก แต่ถ้ารถยังอยู่ในช่วงรับประกัน แล้วพบมีลางบอกเหตุอาการเกียร์เสีย ให้รีบเข้าศูนย์แจ้งซ่อม และถ้าซ่อมไม่หาย ต้องให้เปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ โดยหลายท่านมักเกรงใจ เมื่อเจ้าหน้าที่สาวสวยของศูนย์บอกให้ใช้รถไปก่อน จนสุดท้ายหมดระยะประกัน
-เกียร์มือสองเชียงกง ราคาถูก แต่บางครั้งต้องวัดดวง เนื่องจากเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเกียร์ลูกดังกล่าวใช้งานมานานแค่ไหน
-ซ่อมโอเวอร์ฮอล ราคาไม่แพง โดยยิ่งถ้าได้เปลี่ยน “คลัตช์” โอริง และซีล ทุกตัว รับรองใช้ได้เหมือนของใหม่เลยทีเดียว
เทคนิคควรรู้
-ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ออโตเมติก ตามระยะที่กำหนดหรือเร็วกว่าก็ได้
-หมั่นดูแลตรวจเช็คระดับน้ำมันเกียร์อยู่เสมอ
-วอร์มเครื่องก่อนเข้าเกียร์ เพราะระหว่างที่ติดเครื่องน้ำมันเกียร์ก็จะหมุนเวียนสร้างแรงดันในชิ้นส่วน เตรียมความพร้อมเพื่อยืดอายุของคลัตช์ และชิ้นส่วนต่าง ๆ
การตรวจสอบคลัตช์เกียร์ออโต้ลื่น
-ให้สตาร์ทเครื่อง ในตำแหน่งเกียร์ P หรือ Nวอร์มเครื่องและเกียร์จนถึงอุณหภูมิทำงาน
-จากนั้นดึงเบรคมือให้สุด ใช้เท้าซ้ายเหยียบเบรก
-เข้าเกียร์ D4 หรือ Rเหยียบคันเร่งให้จม โดยห้ามปล่อยเบรกเด็ดขาด
-สังเกตุเข็มวัดรอบเครื่องยนต์ หากอยู่ระหว่าง 2,000-2,500 รอบแสดงว่าคลัตช์ยังปกติสุขดีอยู่ แต่หากเข็มวัดรอบเครื่องยนต์ขึ้นเกิน 2,500 รอบแสดงว่าคลัตช์เริ่มลื่น ถ้ายิ่งทะลุไปถึง 3,000 รอบ แสดงว่าลื่นแน่นอนครับ เครื่องยนต์ย่อมมีอายุการใช้งานแต่หากดูแลบำรุ่งรักษาก็ย่อมยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้นได้...
ขอบคุณข้อมูลจาก -บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด www.mmsboschcarservice.com
อัพเดทข่าวสารผ่านทาง LINE
ไม่พลาดทุกโปรโมชั่นสุดคุ้มให้คุณได้รับทราบ
Add Friend ที่ ID : @masterusedcar