ที่ตั้งสาขา
Menu
TH EN
094 678 2888

ไขปัญหา?? ต้นตอ:สายพานดัง!!

หมวดหมู่: Car Knowledge | 10 เมษายน 2561 | จำนวนเข้าชม (47,952)

 

มีคำถามจากผู้ใช้รถเข้ามาหลายท่าน ถึงปัญหาสายพานดังซึ่งถือเป็นเรื่องชวนปวดหัวอยู่ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม “รู้ก่อนเหยียบ”เคยนำเสนอเรื่อง “สายพานดัง!! : ลางบอกเหตุอันตราย”  ไปแล้ว แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายท่านที่ยังไม่ทราบจึงขอนำมาเสนอกันอีกครั้ง 
 
สายพาน (Auto Belts) มีหน้าที่สำคัญคือการถ่ายทอดกำลังจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง สำหรับในเครื่องยนต์จะถ่ายทอดกำลังจากพูเล่หน้าเครื่องเพื่อใช้กำลังไปขับเคลื่อนอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่วาจะเป็น ไดชาร์จ-คอมเพรสเซอร์แอร์ - ปั๊มน้ำ-ปั๊มเพาเวอร์-ฟรีปั๊ม ฯลฯ
 
สายพานที่นิยมใช้ในรถยนต์ปัจจุบันส่วนใหญ่ผู้ผลิตจะใช้สายพานสำหรับเครื่องยนต์อยู่ 3ชนิดได้แก่
 
-สายพานแบบร่องตัวV (V-Belts) ส่วนใหญ่ใช้ขนาด 9.5 และ 12.5 ยกตัวอย่างเช่น 12.5 * 1250 หมายถึงสายพานเส้นนี้มีความกว้างของสันสายพานด้านนอก 12.5 มม.และมีความยาวรอบวงนอก 1250 มม.
 
-สายพานแบบร่อง V (V-Multi-Ribbed Belts)จะมีลักษณะแบนมีร่อง2-8 ร่อง ตัวอย่างเช่น 6PK 2150หมายถึงสายพานเส้นดังกล่าวมี 6ร่องฟัน และมีความยาวรอบวงนอก 2150 มม.
 
-สายพานแบบฟันเฟือง ซึ่งใช้ในสายพานไทม์มิ่ง
 
สายพานดัง โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากการลื่น เนื่องจากเมื่อผ่านการใช้งานมาระยะหนึ่งสายพานจะยืดตัวออก จนทำให้หน้าสัมผัสของสายพานไม่สามารถยึดเกาะกับพูเล่ได้ จึงเกิดเสียงดัง “เอี๊ยด ๆ”ขึ้น นอกจากนี้เสียงดังกล่าวยังอาจเกิดจากสายพาน แตกร้าว-หมดอายุ หรือ ลูกรอกสายพาน ชำรุดเสียหาย
 
ทั้งนี้ผู้ผลิตรถยนต์จะมีกำหนดระยะการตรวจเช็กและเปลี่ยนสายพานต่าง ๆ ไว้ในสมุดคู่มือ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 8 หมื่นถึง 1 แสนกิโลเมตร แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้สายพานเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนดไม่ว่าจะเป็น ความร้อนของเครื่องยนต์ การปรับตั้งที่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป หากไม่ได้รับการปรับตั้งแก้ไข สายพานอาจขาดและเหวี่ยงไปถูกชิ้นส่วนอื่นเสียหาย หรืออาจประสบปัญหาความร้อนขึ้นสูงเพราะปั๊มน้ำไม่ทำงาน-พวงมาลัยหนัก -ไฟไม่ชาร์จ-แอร์ไม่เย็น เป็นต้น
 
เทคนิคควรรู้
-หมั่นตรวจสอบความตึง-หย่อน เมือพบว่าสายพานหย่อนให้ปรับตั้งใหม่
-หากพบรอยแตกร้าวให้เปลี่ยนใหม่ทันที
-ตรวจสอบลูกปืนตามจุดต่าง ๆ ทั้งในรอกดันสายพานปั๊มน้ำ -ปั๊มเพาเวอร์-ไดชาร์จ ว่าเสียหายหรือไม่เพราะหากลูกปืนแตกอาจเป็นต้นตอให้เกิดเสียงดังได้เช่นกัน
- หลายท่านอาจเคยจะใช้สเปรย์ไล่ความชื้นฉีดที่สายพาน ในการแก้ปัญหาเสียงดัง โดยวิธีดังกล่าวอาจช่วยให้เสียงดังเงียบลงได้เพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น แต่ยังมีอีกวิธีที่ได้ผลดีกว่าคือให้ใช้สบู่ก้อนแช่น้ำพอหมาด ๆ ถูที่บริเวณร่องใต้ท้องสายพานจุดที่สัมผัสกับพู่เล่ รับรองเสียงเอี๊ยด ๆ เงียบสนิท...

ขอบคุณข้อมูลจาก : บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด

อื่นๆ

Auto News
22 สิงหาคม 2567
Auto News
18 กรกฎาคม 2567
Auto News
21 มิถุนายน 2567
News and Events
20 ตุลาคม 2566
การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ของเรา และเรามีความประสงค์จะใช้คุกกี้ทางเลือกเพื่อช่วยให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ของเรา โดยเราจะไม่ใช้คุกกี้ทางเลือกจนกว่าท่านจะอนุญาตให้เราเปิดใช้งานคุกกี้ดังกล่าว

ท่านสามารถศึกษารายละเอียดของการใช้คุกกี้ได้จากนโยบายการใช้คุกกี้ของเรา นโยบายการใช้คุกกี้ ทั้งนี้ หากท่านกดยอมรับคุกกี้ทั้งหมด จะหมายความว่าท่านยินยอมให้เราบันทึกและใช้คุกกี้ทั้งหมดจากอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าเว็บไซต์ของเรา รวมถึงเพื่อทำให้การเลื่อนสำรวจหน้าเว็บและการวิเคราะห์การใช้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมทางการตลาดของเรา

ยอมรับคุกกี้ทั้งหมด