กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะหลักปฏิบัติในการขับรถผ่านเส้นทางที่มีหมอกปกคลุม โดยผู้ขับขี่ควรเปิดไฟหรี่และไฟตัดหมอกจะช่วยมองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น ไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากคันหน้าให้มากกว่าปกติ ไม่ขับรถคร่อมช่องทางจราจร ไม่เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ไม่จอดรถริมไหล่ทางบริเวณที่มีหมอกลงจัด จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในระยะนี้บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง บางพื้นที่ยังคงมีอากาศหนาวเย็น มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง จึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะข้อควรปฏิบัติในการขับรถผ่านเส้นทางที่มีหมอกปกคลุมอย่างถูกวิธี ดังนี้
การเปิดใช้สัญญาณไฟ ควรเปิดไฟหรี่และไฟตัดหมอก เพื่อช่วยให้มองเห็นเส้นทางและทำให้ผู้ขับรถคันอื่นสังเกตเห็นรถเรา พร้อมปิดสัญญาณไฟเมื่อมองเห็นเส้นทางชัดเจนแล้ว เพื่อป้องกันผู้ร่วมใช้เส้นทางตาพร่ามัว ไม่ควรเปิดใช้ไฟหน้าใหญ่ เพราะแสงไฟจะสะท้อนกับความขาวของหมอกและส่องเข้าตาผู้ขับขี่ ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางลดลง ที่สำคัญ ห้ามเปิดไฟกะพริบ เพราะจะไม่มีสัญญาณไฟสำหรับใช้เปลี่ยนช่องทางหรือทิศทางเดินรถ การใช้ความเร็ว ไม่ขับรถเร็ว โดยลดระดับความเร็วในการขับรถให้ช้ากว่าปกติ และอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมรถได้ รวมถึงสอดคล้องกับระยะที่สายตาสามารถมองเห็นเส้นทางผ่านสายหมอก เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดีและผิวถนนบริเวณที่มีหมอกปกคลุมจะลื่นกว่าปกติ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการขับรถผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้หยุดรถและแก้ไขสถานการณ์ทันท่วงที การเว้นระยะห่าง ไม่ขับรถชิดท้ายรถคันหน้าเกินไป เว้นระยะห่างจากคันหน้าให้มากกว่าปกติ โดยใช้สัญญาณไฟท้ายของรถคันหน้าเป็นจุดสังเกตในการขับรถ หากต้องหยุดรถกะทันหัน จะทำให้มีระยะในการหยุดรถมากขึ้นและมีเวลาตัดสินใจแก้ไขเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าได้อย่างปลอดภัย การรักษาช่องทางจราจร ขับรถโดยยึดแนวเส้นขอบถนนด้านซ้ายหรือหมุดสะท้อนแสงเป็นหลัก ให้รถอยู่กึ่งกลางของช่อง ไม่ขับรถคร่อมช่องทางจราจร ไม่เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ไม่แซงรถในระยะกระชั้นชิด กรณีเป็นเส้นทางที่มีรถสวนทาง ไม่ควรขับชิดเส้นกึ่งกลางถนนและชิดริมไหล่ทางมากเกินไป เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
การขับรถข้ามทางแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร ควรชะลอความเร็ว มองซ้ายขวาให้รอบด้าน ลดกระจกลง จะได้มองเห็นเส้นทางและได้ยินเสียงภายนอกรถชัดเจนขึ้น โดยเปิดสัญญาณไฟล่วงหน้า เหยียบแป้นเบรกและบีบแตรเป็นระยะ เพื่อใช้แสงไฟและเสียงแตรเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ขับรถคันอื่นทราบทิศทางการเดินรถของเรา จะได้ชะลอความเร็วและเพิ่มความระมัดระวัง การจอดรถ หากหมอกลงจัดหรือควันไฟปกคลุมจนมองไม่เห็นเส้นทาง ควรนำรถจอดในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น จุดพักรถริมทาง สถานีบริการน้ำมัน เป็นต้น รอจนทัศนวิสัยดีขึ้น ค่อยขับรถไปต่อ ไม่จอดรถกีดขวางช่องทางจราจร ไม่จอดรถริมไหล่ทางบริเวณที่มีหมอกลงจัด กรณีรถเสีย ให้จอดรถชิดริมไหล่ทางให้มากที่สุด พร้อมเปิดไฟฉุกเฉินและนำป้ายเตือน วัสดุสะท้อนแสงหรือกิ่งไม้วางไว้ห่างจากด้านท้ายรถในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร เพื่อให้ผู้ร่วมใช้เส้นทางสังเกตเห็นได้ในระยะไกล จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ การเรียนรู้หลักปฏิบัติในการขับรถผ่านเส้นทางที่มีหมอกปกคุลมอย่างถูกวิธี จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
ที่มา : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย