ที่ตั้งสาขา
Menu
TH EN
094 678 2888

พวงมาลัยเพาเวอร์ รู้ไว้มั่นใจทุกการขับขี่

หมวดหมู่: Car Knowledge | 24 เมษายน 2561 | จำนวนเข้าชม (15,887)

ในปัจจุบันรถยนต์ที่ผลิตออกมาจำหน่าย ส่วนใหญ่มักจะมี “พวงมาลัยเพาเวอร์” เป็นอุปกรณ์พื้นฐาน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้รถ แต่อย่างไรก็ตามยังมีผู้ใช้รถอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่เข้าใจวิธีการใช้ “รู้ก่อนเหยียบ” จึงขอนำทุกท่านมารู้จักกับ

“พวงมาลัยเพาเวอร์” “พวงมาลัยเพาเวอร์” (Power steering system) คือระบบที่เข้ามาช่วยทดกำลังการหมุนพวงมาลัย ไปในทิศทางต่างๆ ให้เบาลง โดยลดการใช้กำลังลง เพื่อประโยชน์ในการหักเลี้ยวในพื้นที่แคบ ๆและความสะดวกสบายในการขับขี่ ทั้งนี้ “พวงมาลัยเพาเวอร์” ในปัจจุบันยังแบ่งออกเป็น 2 แบบ

1. ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฮดรอลิก (Hydraulic Power Steering) ก็ตามชื่อเลยครับ ระบบนี้จะใช้ ปั๊มไฮดรอลิกสร้างกำลังส่งไปกระปุกพวงมาลัย หรือ แร็กพวงมาลัย เพื่อช่วยผ่อนแรงผู้ขับยามหักเลี้ยว โดยใช้แรงจากเครื่องยนต์หมุนผ่านสายพานมายังที่ปั๊มไฮดรอลิก

ข้อดี พวงมาลัยมีความแม่นยำสูง สร้างความมั่นใจในยามเข้าโค้ง

ข้อเสีย เนื่องด้วยระบบใช้น้ำมันในการถ่ายทอดกำลังดังนั้นเมื่อซีล-ท่อทางชำรุดย่อมเกิดการรั่วซึม

ข้อควรระวัง -อย่าหมุนพวงมาลัยจนสุด ค้างไว้นานๆ เนื่องจากจะทำให้น้ำมันเพาเวอร์มีความร้อนและแรงดันสูง จนอาจทำให้ระบบของพวงมาลัยเกิดความเสียหายได้  

2. ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) ระบบนี้จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวสร้างกำลังช่วนผ่อนแรง กล่าวคือเมื่อผู้ขับขี่หักพวงมาลัยจะมีเซ็นเซอร์ ตรวจจับก่อนส่งให้กล่องควบคุมสั่งการให้มอเตอร์ทำงาน

ข้อดี ของระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า คือเมื่อใช้ความเร็วต่ำ พวงมาลัยจะเบามาก แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงกล่องควบคุมจะสั่งการให้พวงมาลัยหนักขึ้นเพื่อความปลอดภัยตามความเหมาะสมในช่วงความเร็วนั้น ๆ -ตัดปัญหาการรั่วซึมในระบบเพราะใช้มอเตอร์

ข้อเสีย มีระยะฟรีและความแม่นยำน้อยกว่า ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฮดรอลิก

เทคนิคควรรู้

จุดสังเกตุต้นตอ”พวงมาลัยหนัก”

1. ระดับน้ำมันต่ำเกินไป ควรเติมให้อยู่ในระดับปกติและหมั่นตรวจสอบเสมอ

2. น้ำมันขาดจากการรั่วซึม ส่งผลให้น้ำมันไม่พอในระบบทำให้พวงมาลัยหนัก ให้ตรวจสอบหาจุดที่รั่วซึมแล้วแก้ไข -ใช้น้ำมันผิดประเภท บ่อยครั้งที่พบปัญหานี้ ให้ทำการถ่ายทิ้งทั้งระบบแล้วเติมน้ำมันใหม่

3. ปั๊มไฮดรอลิก เสียหายส่วนใหญ่อาการนี้มักจะมาพร้อมกับเสียงหอน-เสียงดัง แก้ไขได้โดยการรื้อตรวจสอบซ่อมแซมภายใน แต่ถ้าเกินเยียวยาสามารถหาซื้อปั๊มมือสองมาเปลี่ยนได้ ส่วนท่านที่มีทุนทรัพย์จะเปลี่ยนปั๊มใหม่ก็ได้

4. มอเตอร์ชำรุด-เสียหาย (เฉพาะในรถที่ใช้พวงมาลัยไฟฟ้า) ให้สังเกตุไฟเตือนรูปพวงมาลัยบนหน้าปัด ให้รีบน้ำรถเข้าตรวจสอบโดยช่างผู้ชำนาญ

5. อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนในระบบบังคับเลี้ยว อาทิลูกหมาก ชำรุดเสียหาย

6. ลมอ่อน รถไม่ได้ศูนย์ ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้พวงมาลัยหนักขึ้นได้เช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก: บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด

อื่นๆ

Auto News
22 สิงหาคม 2567
Auto News
18 กรกฎาคม 2567
Auto News
21 มิถุนายน 2567
News and Events
20 ตุลาคม 2566
การใช้คุกกี้ของเรา

เราใช้คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ของเรา และเรามีความประสงค์จะใช้คุกกี้ทางเลือกเพื่อช่วยให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ของเรา โดยเราจะไม่ใช้คุกกี้ทางเลือกจนกว่าท่านจะอนุญาตให้เราเปิดใช้งานคุกกี้ดังกล่าว

ท่านสามารถศึกษารายละเอียดของการใช้คุกกี้ได้จากนโยบายการใช้คุกกี้ของเรา นโยบายการใช้คุกกี้ ทั้งนี้ หากท่านกดยอมรับคุกกี้ทั้งหมด จะหมายความว่าท่านยินยอมให้เราบันทึกและใช้คุกกี้ทั้งหมดจากอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าเว็บไซต์ของเรา รวมถึงเพื่อทำให้การเลื่อนสำรวจหน้าเว็บและการวิเคราะห์การใช้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมทางการตลาดของเรา

ยอมรับคุกกี้ทั้งหมด