หลาย ๆ ท่านคงเคยพบกับปัญหา ไฟเตือนรูปแบตเตอรี่ โชว์บนหน้าปัดขณะขับรถ โดนเริ่มจากนาน ๆ ครั้งและเริ่มบ่อยขึ้นจนสุดท้ายโชว์ค้างตลอด และรถดับในที่สุดทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวเกิดจาก ไฟชาร์จไม่พอ วันนี้ “รู้ก่อนเหยียบ”จึงขอนำทุกท่านมารู้จัก “ไดชาร์จ” และการตรวจสุขภาพ“ไดชาร์จ” แบบง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้
“ไดชาร์จ” หรือชื่อจริง "อัลเทอร์เนเตอร์" (Alternator) แปลว่า เครื่องปั่นไฟ เป็นอุปกรณ์ซึ่งทำหน้าที่เป็นผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในรถยนต์ โดยใช้กำลังเครื่องยนต์หมุนผ่านสายพาน มีคุณสมบัติในการผลิตพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในรถยนต์ ทั้งนี้มักถูกเข้าใจผิดว่าหน้าที่หลักคือชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่เท่านั้น แต่ความเป็นจริงหน้าที่หลักของไดชาร์จ สำคัญมากกว่า กล่าวคือหลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ติด และทำงานในรอบเดินเบา อุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดในรถยนต์จะพึ่งพากระแสไฟจากไดชาร์จ เป็นหลัก แต่ที่สามารถชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้ด้วยนั้น มาจากแรงดันไฟฟ้าที่ออกมาจากไดชาร์จมีค่าสูงกว่าแบตเตอรี่ จึงทำให้เกิดการไหลของแรงดันไฟฟ้า ที่สูงกว่าไปยังแบตเตอรี่
หากไดชาร์จเสีย อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถต้องใช้ไฟจาก แบตเตอรี่เพียงลำพังโดยไม่มีการชาร์จไฟเข้า ส่งผลให้ไฟแบตเตอรี่ จะค่อย ๆ อ่อนลงเรื่อยๆ จนไม่เหลือพอสำหรับจ่ายในระบบ และเครื่องยนต์ดับในที่สุด อย่างไรก็ตาม หากไดชาร์จเสีย หรือชาร์จไม่พอจะมีไฟเตือน เป็นรูปแบตเตอรี่โชว์บนหน้าปัดขณะเครื่องยนต์ทำงาน ดังนั้นหากรถของท่านมีไฟโชว์ดังกล่าว ให้ลดการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในรถให้น้อยที่สุด เพื่อให้ไฟพอเลี้ยงระบบสำคัญต่าง ๆ ให้เครื่องยนต์ทำงานต่อไปได้ พร้อมกับรีบนำรถเข้าตรวจเช็คกับช่างผู้ชำนาญ
เทคนิคควรรู้
วิธีตรวจสุขภาพไดชาร์จง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
-ให้สตาร์ทเครื่องยนต์ ติดเครื่องเอาไว้ที่รอบเครื่องเดินเบา เปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ ทั้งหมด อาทิ แอร์ วิทยุ ไฟหน้ารถ ไฟตัดหมอก ใช้ “มัลติมิเตอร์”ปรับโหมดย่านการวัดไปที่ แรงดันไฟฟ้ากระแสตรง จากนั้นใช้ ปลายสายมัลติมิเตอร์ สีแดงต่อเข้ากับขั้วบวกแบตเตอรี่ ปลายสายสีดำต่อเข้าขั้วลบของแบตเตอรี่ ที่รอบเดินเบาโดยปกติแรงดันไฟฟ้าที่ไดชาร์จ ขณะเปิดโหลดจะอยู่ที่ 13.6 – 14.8 โวลต์ ถือว่าปกติ หากน้อยกว่า 13 โวลต์ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ไฟเตือนรูปแบตเตอรี่โชว์หรือโชว์เป็นครั้งคราวนาน ๆ ครั้ง จะส่งผลเสียให้แบตเตอรี่ ให้มีอายุสั้นลง ในทางตรงกันข้าม หากค่าแรงดันสูงมากเกินไปถึง 16 โวลต์ จะทำให้ระบบไฟในรถมีปัญหาโดยเฉพาะวงจรภายใน ECU อาจไหม้ หรือเสียหายได้
-สำหรับท่านที่ไม่มี “มัลติมิเตอร์” อาจใช้วิธี บ้าน ๆ โดยการสตาร์ทเครื่องยนต์ ติดเครื่องเอาไว้ที่รอบเครื่องเดินเบา เปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ ทั้งหมด อาทิ แอร์ วิทยุ ไฟหน้ารถ ไฟตัดหมอก จากนั้นเปิดฝากระโปรงถอดขั้วแบตเตอรี่ขั้วลบออก หากเครื่องยนต์ไม่ดับ แสดงว่าไดชาร์จยังทำงานอยู่ แต่การใช้วิธีดังกล่าวนี้ไม่สามารถบอกได้ว่า แรงดันไฟฟ้าจากไดชาร์จ มีค่าน้อยหรือมากไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด
อัพเดทข่าวสารผ่านทาง LINE
ไม่พลาดทุกโปรโมชั่นสุดคุ้มให้คุณได้รับทราบ
Add Friend ที่ ID : @masterusedcar